ohhappybear

food. travel. bangkok. thailand.

Koh Kood Calling

Leave a comment

Koh Mai See landing strip seen from Cessna Grand Caravan

The fourth largest of the Kingdom’s islands and located right at the end of Thailand’s eastern marine territory, Koh Kood has remained relatively unscathed from developers’ bulldozers thanks to its distance from the mainland and a lack of convenient means of transportation. | หน้าร้อนอบอ้าวแบบนี้ จะมีอะไรสามารถทำให้ใจระรัวด้วยความอิจฉามารศรีได้ดีไปกว่าการเห็นรูปทะเลสวยๆ ที่เพื่อนพากันโพสต์ทางเฟซบุ๊ค โดยเฉพาะคนที่นั่งจับเจ่าทำงานทุกวี่ทุกวันในเมืองนั้น การได้ออกไปสัมผัสธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ ใช้ชีวิตเนิบๆ ให้สมกับลมเอื่อยๆ ของหน้าร้อน ถอดเกือกเกลือกร่างกับทรายขาวละเอียด ถือโอกาสนุ่งน้อยห่มน้อย นั่งทอดหุ่ยอ่านหนังสือทั้งวันทั้งคืนกับน้ำมะพร้าวหอมเย็นสดๆ ใต้ต้นสน และแหงนหน้าชมดาวที่พราวระยิบระยับทั่วท้องฟ้าที่มืดมิดยามค่ำคืนได้นั้น ถือว่าหรูหราขั้นสุดยอด

The aircraft can only take 8 passengers at a time

Having witnessed how the tourism industry has treated Phuket, Samui, Koh Chang and other islands in Thailand, I was reluctant to write about Koh Kood for fear of what the publicity might means for this pristine paradise. |ทะเลเมืองไทยไม่เคยเป็นสองรองใครด้านความงามและอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เรามีภูเก็ตที่เป็นเกาะใหญ่ที่สุด ตามด้วยเกาะสมุย และเกาะช้าง ส่วนอันดับสี่ก็นั้นก็คือ เกาะกูด ที่อยู่ปลายติ่งน่านน้ำตะวันออกของทะเลอ่าวไทยจังหวัดตราด ซึ่งความไกลและยากลำบากในการเดินทางนี่เอง ที่เป็นตัวรักษาให้เกาะกูดยังสวยงามตามธรรมชาติอยู่มากราวกับเป็นสวรรค์บนโลก ดังนั้นคนที่รักและเห็นคุณค่าของธรรมชาติ จึงต้องกราบขอบคุณระยะทางและความอัตคัตด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถมากระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ที่เกาะแห่งนี้ได้มากนัก

Our ‘Cliff Villa’

But Koh Kood is too pretty not too praise. Looking at Had Klong Chao’s long stretch of white sand and azure sea, I had a flashback to Phuket more than 20 years ago. A peaceful clean beach dotted with just a handful of swimmers and without unsightly parasols and beach recliners is such a rare sight, I felt like I was dreaming. |เกาะกูด เป็นหนึ่งในเกาะ 66 เกาะที่เรียงรายอยู่ตามท้องทะเลอันกว้างใหญ่ของเขตจังหวัดตราด เนื่องจากอยู่ติ่งปลายสุดของแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชา เกาะกูดจึงมักมีส่วนในข้อพิพาทเรื่องเขตแดนอยู่เป็นประจำ สมัยรัชกาลที่ 5 เกาะกูด เกาะช้าง เกาะหมาก รวมทั้งเกาะกระดาด ของจังหวัดตราดนั้น เป็นบรรดาสถานที่พักผ่อนทรงโปรด เพราะนอกจากจะมีความสวยงามมากแล้ว การได้เสด็จมาเยี่ยมสถานที่ไกลโพ้นสุดชายแดนแห่งนี้ ยังถือว่าเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและความภาคภูมิใจในความเป็นไทยให้แก่ราษฏรอีกด้วย

Pretty, pretty beach at The Beach, Soneva Kiri

Koh Kood has been part of Thailand’s border dispute with neighbouring Cambodia for centuries. Legend has it that the island, once totally unpopulated, was found accidentally by young Vietnamese prince who took refuge in Thailand during the reign of King Rama I. King Rama V, who frequented islands in Trat province, stopped by Koh Kood on at least two occasions to enjoy its unbeatable beauty. Back then, the easternmost part of Trat, once a thriving commercial seaport, was named Panjakirikhet. Today, it is called Koh Kong and is part of Cambodia. |เกาะที่มีพื้นที่มากกว่าหนึ่งร้อยกว่าตารางกิโลเมตรอย่างเกาะกูดถือว่าเป็นเกาะขนาดใหญ่ เรื่องเล่ามีอยู่ว่า เกาะกูดเริ่มปรากฏเป็นหลักฐานครั้งแรกตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก สมัยนั้นเจ้าเมืองญวณที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระองค์ หลบหนีออกจากกรุงเทพฯ ลงเรือมายังเกาะสีชัง และชักเรือใบเรื่อยมาในอ่าวไทยยาวนานถึง 7 วันจึงพบเกาะกูด ซึ่งยังไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ ต่อมาในรัชกาลที่ 5  สมัยที่บางส่วนของเขมรในปัจจุบันยังเป็นเมืองราชของไทย พระพุทธเจ้าหลวงได้ตั้งชื่อเมืองสองเมืองไว้อย่างคล้องจองกันให้เป็นเมืองพี่เมืองน้อง นามว่า “ประจวบคีรีขันธ์” ทางตะวันตกของอ่าวไทย และ “ปัจจันต์คีรีเขตต์” ที่อยู่ทางตะวันออก หากกางแผนที่ออกมาดูและนำไม้บรรทัดมาทาบเป็นเส้นตรง เราจะเห็นว่าเมืองทั้งสองอยู่ขนานกัน ปัจจันต์คีรีเขตต์ ก็คือชื่อเก่าของเกาะกง เคยเป็นเมืองหน้าด่านทางการค้าของไทยในทะเลตะวันออก ที่ปัจจุบันเป็นของกัมพูชา

Phi Benz is preparing dinner from daily fresh ingredients

Its remoteness is the reason why Koh Kood has so far escaped an invasion by busloads of tourists and investors. The island is almost a two-hour ride by boat from Trat, itself more than 350 kilometres from Bangkok. Ferry and speedboat services operate only twice a day, one in the morning and the other in the afternoon. That and the fact that most people in Thailand do not take long vacations inside the country, has kept it safe. |สัปดาห์ก่อนถือโอกาสเที่ยวหน้าร้อนตอนทะเลกำลังสวยสุดๆ เหมือนอยู่ในความฝัน นั่งรถวนรอบเกาะกูดที่ยังคงเป็นป่าและสวน เห็นธงแดงที่มีช้างไทยสีขาวประทับอยู่ตามหัวสะพานสำคัญ ถามได้ความว่าธงนั้นคือธงราชนาวี ติดเพื่อฉลองวันยุทธนาวีเกาะช้างที่เป็นการรบครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือไทยกับกองทัพเรือรัฐบาลวิชีฝรั่งเศส ซึ่งเกิดขึ้นที่เกาะช้างในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และฝ่ายไทยสามารถรักษาดินแดนเกาะทั้งหมดในทะเลตราดไว้ได้ การนั่งรถเที่ยวน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสังเกตุการณ์ไลฟ์สไตล์ของชาวเกาะ ด้วยความที่ด้านตะวันตกของเกาะเป็นส่วนที่มีชายหาด ถนนคอนกรีตเส้นเล็กๆ ที่พอสวนกันได้จึงมีเฉพาะด้านนี้ ส่วนอีกด้านเป็นหน้าผาสลับกับชายหาดไม่มีถนนตัดผ่าน หากต้องการไปดูจะต้องเช่าเรือแล้วให้เขาพาลัดเลาะแวะชมหาดเผื่อว่าจะได้บรรยากาศติดเกาะได้มากยิ่งขึ้น

Glowing sun in the morning at Soneva Kiri

The best way to explore Koh Kood is to rent a chauffeured pickup truck or a motorcycle. Thanks to the narrow concrete road running along the west side of the island, tourists can access many the beautiful beaches lining the coastal side. The east side of the island, however, is mostly uncharted steep slopes and cliffs: if you want to explore, you’ll need to hire a boat. |ตัวเมืองของเกาะกูดอยู่ที่บ้านคลองมาด ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะ มีศูนย์รวมราชการ วัด โรงเรียน โรงพยาบาล สถานีตำรวจและสำนักงานไฟฟ้าของเกาะที่มีแผงพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งเก่าและใหม่ตั้งอยู่เต็มพื้นที่ด้านหน้า ที่นี่ไม่มีตลาดสด แต่มีร้านค้าที่ตั้งแผงขายผัก ผลไม้ หมู ไก่ เนื้อและอาหารทะเลบ้างตามประสา คนเกาะบอกว่า ทุกๆ วันไม่ได้กินอาหารทะเล เห็นกุ้ง หอย ปู ปลา ตัวโตๆ แล้วไม่คลั่งจนน้ำลายย้อยเหมือนคนกรุงเทพฯ อาจเป็นเพราะว่าเติบโตมากับความอุดมสมบูรณ์ของทะเล ทานกันบ่อย และมักทานแต่ของตัวใหญ่ๆ ดีๆ ซึ่งมีมาตลอดเวลาอยู่แล้วก็เป็นได้ แต่หากบ้านไหนจะซื้ออาหารทะเลมาปาร์ตี้ ทุกคนในเกาะจะมุ่งหน้าไปยังอ่าวสลัด ที่เป็นท่าเรือประมงใหญ่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ โรงแรมทั้งหลายล้วนต้องเดินทางมาซื้อของสดจำนวนมากที่นี่ รวมทั้งชาวบ้านที่ทำร้านอาหารก็ต้องมาอ่าวสลัดทุกวันเหมือนกัน

Delicious seafood hor mok by Phi Benz

Klong Mad community in the north is the island’s centre and the oldest village. This is where most local people live, work, go to school or consult a doctor. There are some local restaurants though many people seem to eat at the no-name noodle place where the owner plants her own bean sprouts. Next to her stall is a nondescript som tam place offering the papaya salad with a freshwater black-and-white crab called Manorah that’s abundant in the nearby mangrove swamps. |ชาวเกาะกูดยังไม่ได้ขายที่ดินให้นายทุนมาทำโรงแรมมากมายเหมือนเกาะอื่น เจ้าของรีสอร์ทส่วนใหญ่เป็นชาวตราดที่ได้รับมรดกที่ดินมา หรือไม่ก็ให้เช่าระยะยาว หลายคนเปิดกิจการโฮมสเตย์เล็กๆ ทำกันเองในครอบครัว ทำให้เกาะกูดยังมีร้านอาหารเล็กๆ บ้านๆ น่ารักๆ ที่ขายอาหารสดอร่อยไม่แพงอีกมาก ที่หาดคลองเจ้าที่ยาวและสวยที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะ นักท่องเที่ยวยังสามารถนำเสื่อมาปูอ่านหนังสือใต้ต้นสน ทำตัวกลมกลืนกับชาวบ้านที่มักขี่มอเตอร์ไซค์มาปิกนิกหรือแอบงีบหลังเข้าสวนมาแล้วตั้งแต่เช้า ที่นี่ีเขาทำสวนยาง สวนมะพร้าว หรือไม่ก็ประมงชายฝั่ง หรือหากวันไหนอากาศดี ฟ้าใส แนะนำให้ขึ้นไปร้านกาแฟเล็กๆ ที่อยู่บนยอดเขาปลายหาดคลองเจ้า ที่เสิร์ฟกาแฟสดเวียดนามรสหอมเข้มคู่กับเค้กกล้วยหอมพร้อมโยเกิร์ตที่สามีภรรยาทำเองทุกวันช่วงฤดูท่องเที่ยว

Strong, aromatic and fresh Vietnamese style coffee at Dick & Wan in Klong Chao Beach

The vast and unspoiled Klong Chao beach is a perfect place to chill out and swim during the day. For a good view from above, climb up to the hilltop Dick and Wan café at the southern end of the beach and enjoy their aromatic and strong Vietnamese-style filtered coffees, freshly baked banana cake and home-made yoghurt.  |นอกจากทะเลแล้ว เกาะกูดยังมีป่าโกงกางที่สมบูรณ์สวยงามมาก คลองยายกี๋ที่เงียบสงบทางตอนเหนือของเกาะ หรือไม่ก็คลองเจ้าที่เชื่อมกับหาดใหญ่ ล้วนให้บรรยากาศเหมาะมากสำหรับการปลีกวิเวก มานั่งอ่านหนังสือ พักผ่อน เอกเขนก เกลือกกลิ้งในเปลญวณ หรือจะลุกขึ้นมาพายเรือคายัคชมความหนาแน่นของป่าชายเลนตามธรรมชาติที่เกาะนี้ยังมีอยู่ ก็ได้เช่นกัน

Sitting here enjoying the scenery at The Beach, Soneva Kiri

But Koh Kood has more than beautiful beaches. Its lush tropical forests boast waterfalls and abundant mangroves and kayaking along the peaceful Klong Yai Kee river or the wider Klong Yai river can be a peaceful and exhilarating experience. Many local families live and run their own restaurants by the rivers so visitors can indulge in a home-cooked meal and delightful company. |
อาจเป็นเพราะว่าเมื่อเขาไม่มี เขาก็เลยจะเห็นคุณค่าและอยากเก็บถนอมไว้ให้ดีที่สุด ชาวต่างประเทศมากมายต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาชื่นชมความงามของทะเลไทย การเดินทางไปเกาะกูดไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนบินไปภูเก็ตหรือสมุย แต่ฝรั่งทั้งชาวยุโรปและอเมริกายังบินมา ต่อรสบัสและเรืออีกเป็นสิบชั่วโมงเพื่อจะได้เห็นกับตาว่าสวรรค์บนโลก ความสวยงามตามธรรมชาติของทะเลไทยหน้าตาเป็นอย่างไร 

Children’s Den at Soneva Kiri

One dining experience not to miss is Khun Benz restaurant, which is a part of Soneva Kiri on the north of the island. Tucked away at the back of Klong Yai Kee river, Khun Benz showcases Thai cooking at its best. Benz, who hails from Phang Nga, offers no menu but creates a daily multi-course dinner based on what’s available. |เราได้ไปพักที่ Soneva Kiri รีสอร์ทใหญ่ระดับโลกที่ได้รับรางวัลมากมายว่าเป็นรีสอร์ทที่ดีที่สุดและรักษ์สิ่งแวดล้อมที่สุด ที่นี่คือความฝันของคนที่อยากพักผ่อนกับธรรมชาติ อยากฟังเสียงนกเคล้ากับจิ้งหรีดและออเคสตร้าของบรรดากบยามค่ำคืน อยากอาบน้ำใต้แสงจันทร์ มองดูยอดไม้ประกอบเป็นกรอบสวยให้เราแหงนดูดาวบนท้องฟ้าที่มืดมิด สำหรับคนที่อยากนั่งละเลียดกับเครื่องดื่มง่ายๆ มองพระอาทิตย์ค่อยๆ เลื่อนตัวลับขอบฟ้า หรือบรรดาคนที่สุขได้เมื่อมีลมเอื่อยๆ พัดไล้ผิว พร้อมกับแดดอ่อนๆ ที่มีทิวต้นมะพร้าวกรองยูวีไว้ให้แล้วครึ่งหนึ่ง

Koh Kood’s longest Klong Chao beach

If you have a little cash to spare, stay for a few nights at Soneva Kiri Koh Kood. Completed in 2009, the third Soneva-branded resort introduced the concept of “intelligent luxury” to Koh Kood, Soneva Kiri defines that luxury as nature itself, offering spacious villas tucked neatly amidst the tropical forest. |โซเนวาคีรีแห่งนี้เป็นแห่งที่สามของโลกและหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่มาเกาะกูดเพราะอยู่ไกล แต่ยังพอไปได้ รีสอร์ทสร้างสนามบินส่วนตัวไว้ที่เกาะซี้ ที่อยู่ห่างจากเกาะกูดไปเพียงห้านาทีด้วยสปีดโบ๊ท เป็นสนามบินที่เล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความยาวเพียง 800 เมตร พร้อมเนินน้อยๆ ตามลักษณะพื้นดินที่รับได้เฉพาะเครื่องบินเล็ก 8 ที่นั่งเท่านั้น

Another view from our ‘Cliff Villa’

If you cherish nature, Koh Kood is a real paradise on earth. What could possibly be better than lazing around the casuarinas trees with fine powdery white sand under your feet and nothing on the horizon but the sea? |คุณโสนุ และคุณเอวา ชิฟดาซานี สองสามีภรรยาผู้ก่อตั้งรีสอร์ตโซเนวา (มาจากชื่อโสนุและเอวา) เล่าให้ฟังใต้ต้นสนว่า การได้อยู่กับธรรมชาติและความงามอันบริสุทธิ์ที่ไม่ได้รับการปรุงแต่งนี่เองที่ถือว่าเป็นความหรูหราของชีวิตคนในปัจจุบัน เพราะคนส่วนใหญ่มักใช้เวลาทุกๆ วันทำงานและอยู่อาศัยในพื้นที่เล็กๆ ของบ้าน หรือออฟฟิศ ดังนั้นการได้ออกมาสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ดูหนังกลางแปลงในสวนสวยยามค่ำคืน ทานอาหารอร่อยๆ สดๆ ใหม่ๆ รับรู้รสแท้ๆ ของวัตถุดิบแต่ละอย่าง และใช้ชีวิตในวันหยุดเพื่อพักผ่อนอย่างแท้จริงแบบเนิบๆ จึงน่าจะเป็นรางวัลชีวิตที่ดีที่สุดที่คนจะให้ตนเองได้ เขาดีใจที่ได้มาเห็นความงามของเกาะกูด และต้องการที่จะเก็บรักษาความเงียบสงบและความบริสุทธิ์ของธรรมชาติที่นี่ไว้ให้ได้มากที่สุด

Our bedroom

 Just pray the developers don’t find a way of building here too.|โซเนวาคีรี มีวิลล่าที่มีสระส่วนตัวทั้งหมด 29 หลัง ร้านอาหารหลายร้านที่เน้นอาหารสดใหม่จากธรรมชาติ มีบาร์ไอศกรีมและช็อกโกแลตหลายสิบรสที่สามารถรับประทานได้ทั้งวัน ชายหาดที่สวยงามสุดยอดทางด้านใต้ของรีสอร์ท สามารถขับบักกี้ไปได้เอง แล้วใช้เวลาทั้งวันอ่านหนังสือสลับกับเล่นน้ำ หากหิวมีพิซซ่าและอาหารทะเลบาร์บีคิวที่อร่อยมากรออยู่ ส่วนอาหารเย็น หากไม่เบื่อทะเลตรงจุดนี้ก็สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้สวยงามที่นี่พร้อมทานอาหารเห็น แต่หากอยากดื่มแบบแต่งตัวเก๋ๆ สามารถขึ้นไปที่ The View ที่เป็นชานยื่นออกมาจากหน้าผา ชมวิวพร้อมทานอาหารเย็นที่นั่นก็ได้

Outdoor shower is a highlight at Soneva Kiri

Trat is less than 400 kilometres from Bangkok and takes about four or five hours by car along Highway 3 or 344. If you are taking a speedboat or ferry to Koh Kood, plan ahead because they only operate twice a day (morning and afternoon). Most resorts on the island will help you ferry or speedboat ticketing and reservation. Private cars can be parked at the Laem Sok pier. |ครัวพี่เบ็นซ์ที่อยู่ติดกับคลองยายกี๋ที่อุดมไปด้วยป่าโกงกางด้านหลังของโรงแรม เป็นครัวอาหารไทยที่ทั้งชาวต่างชาติและไทยชอบมาก พี่เบ็นซ์เป็นคนพังงา รสมือยอดเยี่ยมทำเองชิมเองจ่ายตลาดเองสำหรับแขกทุกมื้อ มาที่นี่ไม่ต้องดูเมนู เพราะคุณพี่เขาจะเลือกตามของสดที่ได้มาในแต่ละวัน  

Mushroom soup at The View, Soneva Kiri

Soneva Kiri Koh Kood operates its own daily flights on an 8-seater Cessna Grand Caravan from Suvannabhumi Airport to its landing strip on nearby Koh Mai See. Promotions are available for Thai residents through September. Visit www.SixSenses.com. |เกาะกูดสวยที่สุดยามหน้าร้อน ทะเลสวยเป็นสีครามไล่สีสลับกันตามแสงสะท้อนจากท้องฟ้า สวยมากเสียจนแทบไม่อยากเสียเวลานอน และหวังว่านักท่องเที่ยวและเจ้าของกิจการรวมทั้งชาวบ้านเกาะกูดจะเห็นคุณค่าของที่เขามี และช่วยกันรักษาไว้เช่นนี้นานๆ  

BBQ prawns at The Beach, Soneva Kiri

โซเนวาคีรี กำลังมีโปรโมชั่นสำหรับผู้ที่อยู่ในประเทศไทย ค่าห้องพักเริ่มต้นคืนละ 16,000 บาท สำหรับสองท่านรวมอาหารเช้า หรือหากต้องการซื้ออาหารทั้งวันรวมช็อกโกแลตและไอศกรีม เพิ่มอีกท่านละ 3,696 ต่อวัน ส่วนค่าเครื่องบินที่ใช้เวลาบินจากสุวรรณภูมิภึงเกาะกูดประมาณหนึ่งชั่วโมงคนละ 12,540 บาท (เด็กต่ำกว่า 11 ขวบคนละ 6,270 บาท) ยกเว้น 1-15 เมษายนนี้ และ หมดเขต 30 กันยายน 2555 รายละเอียดเพิ่มติมที่ www.sixsenses.com หรือโทร 039-619-800 หรือ 081-345-2791


Click here for more pictures :))



Leave a comment